เที่ยวจอร์แดนเมืองแห่งโมเสส

คราวนี้ มาเล่ากันต่อกับเรื่องราวหลายเหตุผลที่ต้องไปเยือนจอร์แดนสักครั้งจาก Ep.1 ประเทศ “จอร์แดน” (JORDAN) ที่ว่าเป็นเมืองไข่แดงคืออะไร? “จอร์แดน” (JORDAN) เป็นประเทศในแถบภูมิภาคตะวันออกกลาง ที่ตั้งอยู่ใจกลางถูกล้อมรอบไปด้วยประเทศที่มีการก่อการร้าย ซึ่งเต็มไปด้วยสงครามกลางเมือง แต่เชื่อหรือไม่ว่าจอร์แดนนับเป็นประเทศเดียวในตะวันออกกลางที่มีความปลอดภัยสูงสุด สงบสุข ไร้สงคราม ปราศจากเหตุก่อการร้ายในประเทศ ดังนั้นเราจึงเดินทางท่องเที่ยวในประเทศนี้ได้อย่างสบายใจไร้กังวล นอกจากนี้ ประเทศนี้ยังเป็นศูนย์รวมของอารยธรรมโบราณหลายยุคหลายสมัย แถมใช้เวลาการเดินทางแค่ 8-9 ชั่วโมงไม่ยาวนานจนเกินไป และมีสายการบินแห่งชาติจอร์แดน (Royal Jordanian Airlines) ที่บินตรงจากสุวรรณภูมิถึงกรุงอัลมาน เมืองหลวงของประเทศจอร์แดนได้เลย โดยไม่ต้องเสียเวลาเปลี่ยนเครื่อง

ตามรอยโมเสส (Moses)

ผู้นำชาวยิวที่แหวกทะเลแดงหนีชาวอียิปต์ที่มาเสียชีวิต และเชื่อกันว่าเป็นสถานที่ฝังศพของโมเสส คือภูเขาเนโบ (Mount Nebo) นับเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์จาริกแสวงบุญของชาวคริสต์มาตั้งแต่สมัยโบราณ และที่นี่ยังมีอนุสรณ์ไม้เท้าศักดิ์สิทธิ์แห่งโมเสส เป็นลักษณะไม้เท้ารูปไม้กางเขน โดยอุทิศเป็นสัญลักษณ์ของโมเสสและพระเยซู เมืองมานาบา (Manaba) ดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์แห่งเยรูซาเลม อดีตเส้นทางสำคัญสมัยโรมัน เป็นเมืองแห่งเรื่องราวของโมเสส อันเป็นสถานที่ประวัติศาสตร์ที่สำคัญของศาสนายูดา คริสต์ และอิสลาม ทั้งเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องการทำโมเสส ศิลปะการตกแต่งเรื่องชิ้นแก้ว หิน และกระเบื้องชิ้นเล็ก ๆ ซึ่งใช้ในการตกแต่งมหาวิหาร หรือในปัจจุบันใช้ตกแต่งบ้านเรือนอันสวยงาม จนมีชื่อเรียกว่า “เมืองแห่งโมเสส”

เจอราช (Jerash) ความอลังการในยุคโรมัน

หากใครชอบความอลังการในยุคโรมัน พลาดไม่ได้ที่จะต้องไป คือ เจอราช (Jerash) เมืองโบราณขนาดใหญ่สมัยโรมัน ซึ่งยังคงมีความสมบูรณ์อยู่มาก หลายคนอาจคิดว่ามีแต่ในกรีซหรืออิตาลีเท่านั้น รับรองว่าที่นี่อลังการไม่แพ้กัน ตื่นตาตื่นใจมาก ๆ เจอราชได้ชื่อว่า “เมืองพันเสา” อารยธรรมเหล่านี้มีให้เยี่ยมชมได้ทั่วทั้งประเทศจอร์แดน ชมกันได้อิ่มเลยทีเดียว

Amman Citadel ชมเสาหินแห่งวิหารเฮอร์คิวลิส

Amman Citadel สร้างอยู่บนเนินเขา Jebel al-Qala’a ซึ่งสูงที่สุดในกรุงอัลมาน (Amman) เมืองหลวงของประเทศจอร์แดน มีจุดไฮไลต์คือเสาหินแห่งวิหารเฮอร์คิวลิส (Temple of Hercules) มีขนาดใหญ่กว่าวิหารทั้งหลายในกรุงโรมเสียอีก แต่จากหลักฐานที่ขุดพบเชื่อว่าวิหารนี้ยังสร้างไม่เสร็จ ตอนนี้เหลือแต่ซากปรักหักพังและเสาขนาดใหญ่ 2 ต้นทางด้านหน้า กว้างใหญ่ไพศาลมาก และที่สำคัญต้องตามหาให้เจอคือ มือของเฮอร์คิวลิส (Hand of Hercules) เดินวนหานานมากท่ามกลางแดดจัด ไม่ไหวแล้ว ดีนะที่เปิดดาต้าโรมมิ่งไป เราจึงหยิบมือถือเปิด Google Map ตามหากันเลยทีเดียว ต้องเห็นกับตาให้ได้ เชื่อว่าเป็นส่วนหนึ่งของรูปสลักขนาดยักษ์ของ Hercules ซึ่งสันนิษฐานกันว่าอาจพังลงจากแผ่นดินไหว ดูจากขนาดเศษเสี้ยวของมือแล้ว จินตนาการได้ว่ารูปสลักทั้งตัวน่าจะใหญ่โตมากเลย เสียดายที่ไม่เหลือให้ได้เห็นแล้ว ในรูปเป็นส่วนของมือ และข้อศอกที่เหลืออยู่ รอบ ๆ วิหารก็จะมีชิ้นส่วนของวิหารที่ยังหลงเหลืออยู่วางไว้ให้ได้ชมกัน

ไปช้อปปิ้งกันเถอะ

สำหรับคนชอบช้อปปิ้ง ดูของที่ระลึก มีให้เดินกันเพลิน ๆ แหล่งช้อปปิ้งน่าจะหนีไม่พ้นเมืองหลวงอย่างกรุงอัลมาน ที่รถราขวักไขว่ ของฝากของที่ระลึกยอดฮิตของจอร์แดน ที่ต้องซื้อติดไม้ติดมือกลับเมืองไทย มีมากมายหลายแนวที่น่าสนใจ สายกินก็ต้องหอบอินทผลัม (Date Plum) ผลไม้แห่งคาบสมุทรอาหรับ ที่ลูกโตหวานนุ่ม และยังมีขนมหวานหลากหลายแบบให้คอขนมหวานได้ลิ้มลอง สายศิลปะก็ต้องศิลปะในขวดทรายที่ตกแต่งเป็นลวดลายด้วยทรายหลากสี สายแต่งตัวความสวยงาม ก็ต้องหยิบฉวยผ้าโพกหัว (Kefiya) เป็นผ้าฝ้ายปักด้ายสี สีหลักจะเป็นสีดำและแดง นอกจากนี้ ต้องซื้อผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจาก The Dead Sea ที่มีตั้งแต่สำหรับหัวจรดปลายเท้า อุดมไปด้วยแร่ธาตุจากธรรมชาติบำรุงผิวให้สวยงามสมคำร่ำลือ

จอร์แดน นับเป็นประเทศที่ท่องเที่ยวทุกรูปแบบจริง ๆ การไปท่องเที่ยวในประเทศแปลก ๆ ที่ไม่ใช่ประเทศยอดฮิตในยุโรป อเมริกา เอเชีย หรือออสเตรเลีย เราจะอุ่นใจมากขึ้น เมื่อเปิด roaming บริการข้ามแดนอัตโนมัติจากดีแทค สบายใจกับ dtac worry free ทุกทริปหมดกังวลเพราะสามารถควบคุมวงเงินได้ไม่ให้เกินงบประมาณเมื่อไปใช้งานในต่างประเทศ