ท่องเที่ยวเมืองมรดกโลก 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก - LIV | dtac

อันดับแรก หากเบื่อกับการขอวีซ่าก่อนการเดินทาง ประเทศจอร์แดนคืออีกหนึ่งคำตอบที่ดีเพราะ ไม่ต้องขอวีซ่าก่อนการเดินทาง ขอได้ง่าย ๆ เมื่อเดินทางไปถึง กรณีท่องเที่ยวจะเป็นวีซ่าแบบ On Arrival โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการเตรียมเอกสารมากมาย คุณแค่มีหนังสือเดินทาง (Passport) เล่มจริง ที่มีอายุเหลือไม่ต่ำกว่า 6 เดือน นับรวมวันเดินทางกลับถึงยังประเทศไทย และมีหน้าว่างมากกว่า 2 หน้า และเงินประเทศจอร์แดนเป็นค่าธรรมเนียม ซึ่งวีซ่าเข้า-ออกครั้งเดียว (อายุ 1 เดือน) แค่ 40 JOD (Jordanian Dinar) หรือประมาณ 1,600-1,700 บาท เท่านั้น (ขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนในช่วงเวลานั้น ๆ)

อันดับต่อมา ขาดไม่ได้เห็นจะเป็นเรื่องกิน ตอนแรกเราคิดว่าอาหารที่นี่คงจะไม่ถูกปากคนบ้านเราแน่ ๆ เพราะเป็นประเทศอิสลาม เนื้อหมูไม่ต้องพูดถึงคือไม่มี อาหารส่วนใหญ่เป็นเนื้อไก่ เนื้อวัว และเนื้อแกะ บวกกับแป้งนานาชนิดที่บอกเลยว่าอร่อยมาก ใครที่ชอบมะเขือเทศพูดได้เลยที่นี่เป็นสวรรค์ของคุณเลยทีเดียว สดและหวานกรอบ จอร์แดนเป็นดินแดนอาหารต้นฉบับปิ้งย่างบาบีคิวเลยนะ อร่อยเด็ด ใครชอบอาหารแนวนี้รับรองไม่ผิดหวัง

นครเพตรา (Petra) เมืองมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก ปี 1985 และ 1 ใน 7 สิ่งหัศจรรย์ของโลก คืออีกเหตุผลที่ต้องมา นับเป็นสถานที่ไฮไลต์เลยทีเดียว ตื่นตาตื่นใจเป็นที่สุดนับตั้งแต่เริ่มก้าวย่างเข้าเยี่ยมชมมหานครแห่งนี้ ยิ่งใหญ่อลังการสมคำร่ำลือ โดยจะต้องเดินผ่านซอกผาเล็ก ๆ วกไปวนมาระยะหนึ่ง ก่อนที่จะไปเจอเมืองโบราณสีชมพูที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาที่เป็นการเจาะหินเข้าไปเพื่อทำเป็นที่อยู่อาศัย มีอายุราว 300 ปีก่อนคริสตกาล เมื่อได้เห็นแล้วจะทึ่งมาก และเกิดความสงสัยว่าคนในยุคนั้นสามารถสร้างได้อย่างไร ทั้ง ๆ ที่ไม่มีเครื่องมือใด ๆ เลย มันช่างน่าอัศจรรย์จริง ๆ แสงแดดที่สาดส่องตามซอกเขาหินทรายสะท้อนเป็นสีทอง เหมือนจิตรกรธรรมชาติได้มาบรรจงสร้างสีสันให้สวยงาม

ทะเลสาบเดดซี (Dead Sea) ทะเลที่เราได้ยินมาตั้งแต่เด็ก ๆ จากการเรียนที่โรงเรียนสมัยมัธยมว่าเป็นทะเลที่เค็มที่สุดในโลก และไม่มีสิ่งมีชีวิตใด ๆ อาศัยอยู่เลย ก็คือเหตุผลอีกข้อหนึ่ง เราเคยได้ยินว่าคนที่ว่ายน้ำไม่เป็นก็ยังสามารถลอยตัวได้โดยไม่จมน้ำ ต้องไปลอยตัวด้วยตัวเองสักครั้ง ทริปจอร์แดนนี้เราประทับใจและฮาสุด ๆ กับการประทินผิวแบบธรรมชาติ คือการพอกโคลนจากเดดซี ดำตั้งแต่หัวจรดเท้า พอกให้ครอบคลุมทั่วร่างกาย เพราะเป็นการพอกโคลนแบบไม่เสียเงิน ของฟรีต้องจัดให้คุ้ม เราต้องถือคติหลักที่ว่า “เกิดเป็นหญิง อย่าหยุดสวย”

เหตุผลต่อมาก็คือ การเที่ยวแบบ adventure ที่ ทะเลทรายวาดิรัม (Wadi Rum) ที่เต็มไปด้วยเทือกเขาหินสลับซับซ้อนแปลกตา สนุกสุด ๆ กับการนั่งรถกระบะ 4 wheel เปิดประทุนสัมผัสกับลมทะเลทราย ร้อนนะแต่เป็นร้อนแห้งต่างจากบ้านเรา ระหว่างเดินทางไปไหนขอแนะนำให้พกน้ำติดตัวไปเสมอ น้ำเปล่าดีที่สุด เราควรจิบน้ำบ่อย ๆ เพราะเราจะรู้สึกแห้งและกระหายน้ำมาก ที่นี่เราได้ประสบการณ์อันน่าประทับใจสุด ๆ กับความสนุกสนานของการขี่อูฐครั้งแรกแบบขบวนคาราวานบนทะเลทรายที่หาไม่ได้ในบ้านเรา

อีกเหตุผลที่ไม่น่าพลาดก็คือ การได้ล่องเรือท้องกระจกชมประการังที่ทะเลแดง เมืองอคาบา (Aqaba) ซึ่งเป็นเมืองท่า และเมืองท่องเที่ยวตากอากาศที่สำคัญของประเทศจอร์แดน และเป็นเมืองเดียวที่ถูกประกาศให้เป็นเมืองปลอดภาษี ตั้งอยู่ใกล้ ๆ กับฉนวนกาซา ฝั่งตรงข้ามคือประเทศอิสราเอล โดยมีทะเลแดงคั่นกลาง ทะเลแดงไม่แดงอย่างที่คิด กลับเป็นสีฟ้าเข้ม ตัดกับภูเขาสีน้ำตาล ทำให้ดูสวยแปลกตาไปอีกแบบ

อันที่จริงยังมีอีกหลายเหตุผลว่าทำไมควรไปเที่ยวประเทศจอร์แดน เพราะดินแดนแห่งนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่แปลกตามากมายหลายแห่งที่ควรไปสักครั้งในชีวิตจริง ๆ เดี๋ยวครั้งหน้าจะมาเล่าให้ฟังต่อถึงเหตุผลอีกมากมาย กับเหตุใด?...ทำไม?...ประเทศจอร์แดนแห่งนี้จึงเป็นดินแดนไข่แดง กับร่องรอยอารยธรรมที่ยิ่งใหญ่

การเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศทุกครั้ง ยิ่งประเทศที่ไม่ได้เป็นประเทศยอดฮิตด้วยล่ะก็ เพื่อความไม่ประมาทควรจะต้องซื้อประกันการเดินทางด้วยนะจ๊ะ เดี๋ยวนี้การซื้อก็ง่ายไม่ลำบากเลย แถมมีส่วนลดพิเศษถึง 15% กับลูกค้าดีแทคทุกคน แค่ซื้อประกันภัยออนไลน์ผ่าน I-Insure by KPI ที่ https://www.dtac.co.th/dtacreward/travel?shop-name=i-insure หรือ https://iinsure.kpi.co.th/dtac/ta หรือกด *140*0922# โทรออก ง่าย ๆ แค่ปลายนิ้ว ก็สามารถซื้อประกันการเดินทางได้แล้ว