วันตรุษจีน คือวันขึ้นปีใหม่ของชาวจีนทั่วโลก ซึ่งในปีนี้ พ.ศ.2563 (ค.ศ. 2020) ตรงกับวันเสาร์ที่
25 ม.ค. 2563
ตรุษจีนเป็นเทศกาลที่จัดเพื่อเฉลิมฉลองฤดูใบไม้ผลิ จะมีการตกแต่งบ้านเรือนด้วยสีแดงหรือสีทอง (สีมงคล) เป็นประเพณีที่สำคัญของชนเชื้อสายจีน ซึ่งเป็นการเริ่มต้นปีใหม่ของชาวจีน วันแรกของฤดูใบไม้ผลิ วันตรุษจีน ชาวจีนจะเรียกว่า วันชิวอิก ซึ่งเป็นการเริ่มต้นปีที่เป็นสิริมงคล ถือเป็นวันเบิกฤกษ์ของปีเลยก็ว่าได้
“เทศกาลตรุษจีน”ต้องเตรียมตัวและของไหว้อย่างไรบ้าง เพื่อความเป็นสิริมงคล ร่ำรวยตลอดปี
วันจ่าย (วันก่อนสิ้นปี) ต้องจับจ่ายใช้สอย เตรียมซื้อของไหว้ก่อนจะถึงวันไหว้ เพราะร้านค้าส่วนใหญ่
จะปิดเช่นกัน
วันไหว้ (วันสิ้นปี) จะเป็นการไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และเทพเจ้าต่าง ๆ และไหว้บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว แสดงถึงความกตัญญู และเป็นวันที่ญาติพี่น้องจะได้มารวมกันเป็นวันที่สำคัญวันหนึ่ง หลังจากไหว้เสร็จ รับประทานอาหารร่วมกันและแจกอั่งเปา
วันตรุษจีนหรือวันปีใหม่ (วันชิวอิก) คือ วันที่ต้องเฉลิมฉลองท่องเที่ยว พูดแต่สิ่งดี ๆ ไม่พูดคำหยาบ ใส่เสื้อผ้าชุดใหม่ (สีแดงหรือสีทอง) ไปเยี่ยมญาติพี่น้อง ขอพรจากผู้ใหญ่ ควรนำส้มติดไม้ติดมือไปเป็นของฝาก เพราะส้มเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นมงคล
สิ่งที่ต้องเตรียม
1. ทำความสะอาดบ้าน ก่อนที่จะถึงวันขึ้นปีใหม่ ซึ่งเป็นการรับพลังงานดี ๆ เข้าสู่บ้านเรือน ในช่วงปีใหม่ และตกแต่งบ้านเรือนด้วยสีแดงหรือสีทอง การทำความสะอาดต้องทำจากข้างบนลงข้างล่างและจากหน้าบ้านไปข้างหลังบ้าน
2. เตรียมของไหว้ ควรต้องมีชุดอาหารคาว 3 อย่าง (หมูเป็ดไก่) หรือ 5 อย่าง (หมูเป็ดไก่ตับปลา) ข้าว กับข้าว 8-10 อย่าง ขนมไหว้ ผลไม้ (มีความหมายดีเป็นสิริมงคล) น้ำชา 5 ถ้วย ที่สำคัญ กระดาษเงินกระดาษทอง (ใช้สำหรับใบเบิกทางให้บรรพบุรุษลงมารับของไหว้)
ความหมายของอาหารและผลไม้ที่เป็นมลคล
อาหารคาว : หมู (ความอุดมสมบูรณ์), เป็ด (ความสะอาดบริสุทธิ์), ไก่ทั้งตัว (ความสมบูรณ์), ปลา (เหลือกินเหลือใช้), เส้นบะหมี่ยาวๆ หมี่ซั่ว (อายุยืน)
ผลไม้ : ส้มสีทอง (ความเป็นมหามงคล), กล้วย (โชคลาภ), แอปเปิ้ล (สันติสุข), องุ่นเขียว (เจริญงอกงาม), แก้วมังกร (มีอำนาจบารมี) สาลี่ (นำพาโชคลาภ แต่ไม่ควรใช้ตั้งโต๊ะไหว้บรรพบุรุษและสัมภเวสี)
ขนมไหว้ : ขนมเข่ง ขนมเทียน (ความราบรื่น) ขนมถ้วยฟู ขนมสาลี่ (ความเฟื่องฟู) ขนมกู๋ช่าย, ซาลาเปา (การห่อโชคลาภ)
อาหารที่ไม่ควรใช้
*เต้าหู้ไม่ควรนำมาใช้ในการไหว้ เพราะเป็นอาหารสีขาวใช้ในงานศพ
*องุ่น (ห้ามใช้องุ่นดำเพราะสีไม่เป็นมงคล)
*เชอรี่ (ห้ามใช้สีดำเพราะสีไม่เป็นมงคล)
การตั้งเครื่องไหว้จะแบ่งเป็น 3 ช่วง
ช่วงเช้ามืด เป็นการไหว้เทพเจ้าต่าง ๆ และเทพเจ้าแห่งโชคลาภ
เครื่องไหว้ : หมูสามชั้นต้ม เป็ดต้ม ไก่ต้มทั้งตัวห้ามสับ เหล้า น้ำชา
ผลไม้ : ส้มสีทอง กล้วย แอปเปิ้ล สาลี่ (แต่ไม่ควรใช้สาลี่สำหรับตั้งโต๊ะไหว้บรรพบุรุษและสัมภเวสี)
ขนม : ขนมเข่ง ขนมเทียน ขนมถ้วยฟู ขนมสาลี่
เผากระดาษเงินกระดาษทองเป็นการขอพร ช่วง 7-8 โมง
ช่วงสาย (ไม่เกินเที่ยง) เป็นการไหว้บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว การตั้งโต๊ะควรตั้งกลางแจ้งภายนอกอาคาร เผาใบเบิกทางก่อนเผากระดาษเงินกระดาษทอง
ช่วงบ่าย (บ่ายโมงไม่เกินบ่าย4โมงเย็น) เป็นการไหว้สัมภเวสี หรือผีไม่มีญาติ ปูเสื่อไหว้ที่พื้น ไหว้ด้วย ข้าว กับข้าว ขนม เผากระดาษเงินกระดาษทอง หลังจากนั้นจุดประทัดไล่สิ่งชั่วร้าย
อาจารย์ช้างท่านแนะนำให้ไหว้ องค์ไฉ่ซิงเอี้ย (เทพเจ้าแห่งโชคลาภ) เพื่อที่องค์เทพเจ้าจะได้ประทานเงินทอง
โชคลาภ และฤกษ์ที่ อ.ช้างท่านแนะนำ ในการไหว้ก็คือ คืนวันที่ 24 ม.ค. เวลา 23.00-01.00 น. ให้ผู้ไหว้หันหน้าไปทางทิศตะวันตก ต้องจัดของไหว้ให้ครบ และเตรียมสิ่งของที่เป็นสัญลักษณ์ของเงินทองมาตั้งที่โต๊ะไหว้ด้วย เช่น กระเป๋าสตางค์ใบใหม่ สมุดบัญชี เงิน ทอง เพราะว่าองค์ไฉ่เซิงเอี้ยเป็นเทพเจ้าที่จะประทานโชคลาภเงินทอง และเริ่มใช้กระเป๋าสตางค์ใบใหม่ในเช้าวันตรุษจีน แต่ถ้าจะให้ปังก็ควรจะเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ที่มีตัว
เลขมงคล ถูกโฉลกกับราศีเกิดที่ อ.ช้างแนะนำ น่าจะช่วยเสริมความโชคดีขึ้นไปอีก ของแบบนี้ไม่เชื่อ อย่าลบลู่นะคะ