ของหายที่ญี่ปุ่น ต้องทำอย่างไรก่อนไป lost and found - LIV | dtac
ญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในประเทศฮอตฮิตที่หลายคนอยากจะไปสัมผัสให้ได้สักครั้ง เพราะดินแดนแห่งนี้เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ทั้งภูมิทัศน์ที่สวยงาม แหล่งช็อปปิ้งหลากหลาย อาหารอร่อย อากาศก็ดี๊ดี จนใครที่มีโอกาสไปเยือนแดนปลาดิบต่างติดอกติดใจและอยากกลับไปอีกครั้ง (หรือหลาย ๆ ครั้ง) แต่คงไม่ดีแน่ ๆ หากทริปในฝันที่คุณแพลนไว้แสนนานต้องวุ่นวาย หมดสนุก เมื่อคุณดันทำของหาย หรือทำกระเป๋าหายบนรถไฟเสียนี่ และเมื่อนึกขึ้นได้ เจ้ารถไฟขบวนนั้นก็เคลื่อนตัวออกจากชานชาลาไปแล้ว เจอแบบนี้เป็นใครก็คงปวดหัวแน่นอน แต่อย่าเพิ่งหัวร้อนและกังวลมากไป เพราะเรามี 5 วิธีรับมือกับสถานการณ์ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นแบบนี้มาฝากกัน
1.จงตั้งสติให้มั่น
ทันทีที่รู้ตัวว่าของสำคัญได้หายไป คนส่วนใหญ่คงสติแตกกันทั้งนั้น ยิ่งมีพาสปอร์ตและพ็อกเก็ตมันนี่อยู่ในกระเป๋าใบนั้นด้วย คุณจะยิ่งหัวร้อนและตื่นตระหนกตกใจจนทำอะไรไม่ถูกทีเดียว แต่คุณก็ต้องพยายามตั้งสติให้มั่น เพราะตกใจไปก็ไม่ช่วยให้เจอของเร็วขึ้น ในทางกลับกัน สติจะช่วยให้คุณสามารถจัดการปัญหาและอาจเจอสิ่งของของคุณเร็วขึ้นก็ได้ ดังนั้น สิ่งแรกที่ควรทำคือ “มีสติ” และเมื่อเรียกสติกลับมาได้แล้ว ให้เริ่มสำรวจตามจุดต่าง ๆ ให้แน่ชัดอีกครั้ง เผื่อว่าคุณจะนำมันลงมาจากรถไฟด้วยแล้วลืมวางไว้ที่ไหนสักแห่ง กระทั่งหาจนทั่วและมั่นใจว่าหายแน่ ๆ ถึงทำข้อต่อไป
2.ขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่รถไฟในสถานี
เมื่อหาในบริเวณสถานีรถไฟไม่เจอจริง ๆ ให้มองหาเจ้าหน้าที่พนักงานของสถานีรถไฟแห่งนั้น และตรงเข้าไปหาเพื่อขอความช่วยเหลือทันที โดยคุณต้องเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับกระเป๋าหรือสิ่งของที่หายไป ที่สำคัญควรจดจำลักษณะกระเป๋าหรือสิ่งของนั้น ๆ พร้อมหมายเลขตู้โดยสารรถไฟ และปลายทางของรถไฟมุ่งหน้าไปที่ไหนให้ได้ เพราะสิ่งนี้จะเป็นข้อมูลสำคัญที่นายสถานีจะช่วยประสานงานกับสถานีต่าง ๆ เพื่อค้นหาได้อย่างรวดเร็ว
แม้คุณจะฟุดฟิดฟอไฟภาษาอังกฤษได้คล่องแคล่ว แต่หากภาษาญี่ปุ่นไม่สตรองพอ คุณควรจะดาวน์โหลดแอปพลิเคชันแปลภาษาญี่ปุ่นด้วยเสียงติดไว้ในโทรศัพท์ เพราะเมื่อเกิดเหตุคับขันขึ้น เจ้าแอปฯ แปลภาษานี้จะกลายเป็นตัวช่วยสุดแสนวิเศษในการสื่อสารกับคนญี่ปุ่นได้สะดวกสบายเชียวล่ะ
3.ติดต่อป้อมตำรวจที่สถานีรถไฟใกล้สุด
แม้ญี่ปุ่นจะได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่มีความปลอดภัยและซื่อสัตย์อย่างมาก แต่เวลาเกิดเหตุการณ์ของหาย ขอให้นึกถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้ก่อนเลย เมื่อขอความช่วยเหลือจากจากเจ้าหน้าที่รถไฟแล้วยังไม่พบ กรณีนี้ให้คุณไปติดต่อยังป้อมตำรวจ โดยในญี่ปุ่นจะเป็นที่รู้จักกันดีในชื่อ “โคบัง” (KOBAN) ส่วนใหญ่ตั้งอยู่บริเวณหัวมุมถนนไม่ไกลจากสถานีรถไฟ โดยจะคอยให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยวในพื้นที่ เมื่อคุณเข้าไปติดต่อ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะซักถามรายละเอียดเกี่ยวกับของที่ทำหายไป เช่น หายที่ไหน เวลากี่โมง ยี่ห้อ ขนาด สี รวมถึงเบอร์โทรศัพท์และโรงแรมที่พัก เพื่อติดต่อกลับไปหากมีคนเจอของและเก็บมาส่ง แต่กรณีที่คุณไม่มีเบอร์โทรศัพท์ในญี่ปุ่น คุณสามารถจะกลับไปที่สถานีตำรวจในวันถัดไปหรือหลังจากนั้นอีก 2-3 วัน ดังนั้น คุณต้องตอบคำถามเจ้าหน้าที่ให้ชัดเจนและครบถ้วน
4.ไปที่จุด Lost & Found
หลังจากแจ้งเจ้าหน้าที่สถานีและเจ้าหน้าตำรวจไปประมาณ 2-3 วัน และยังไม่ได้รับการติดต่อกลับมา คุณอาจต้องเดินทางไปติดต่อที่จุด Lost & Found ในสถานีรถไฟใหญ่ ๆ ดู เพราะบางครั้งสิ่งของที่นักท่องเที่ยวทำหายจะถูกส่งไปเก็บไว้ที่สถานี กระทั่งเวลาผ่านไปสักระยะ สิ่งของจะถูกส่งไปที่สถานีตำรวจใหญ่ในเขตนั้น ๆ
5.โหลดแอปพลิเคชันแปลภาษาญี่ปุ่นด้วยเสียง
แม้คุณจะฟุดฟิดฟอไฟภาษาอังกฤษได้คล่องแคล่ว แต่หากภาษาญี่ปุ่นไม่สตรองพอ คุณควรจะดาวน์โหลดแอปพลิเคชันแปลภาษาญี่ปุ่นด้วยเสียงติดไว้ในโทรศัพท์ เพราะเมื่อเกิดเหตุคับขันขึ้น เจ้าแอปฯ แปลภาษานี้จะกลายเป็นตัวช่วยสุดแสนวิเศษในการสื่อสารกับคนญี่ปุ่นได้สะดวกสบายเชียวล่ะ แม้ว่าเดี๋ยวนี้คนญี่ปุ่นจะพูดภาษาอังกฤษกันมากขึ้นแต่ก็ไม่ได้ถนัดมากนัก ปัจจุบันก็มีแอปพลิเคชั่นแปลภาษาฟรี ดี ๆ ให้เลือกมากมาย การใช้งานก็แสนง่าย เพียงคุณพูดใส่แอปฯ มันก็จะแปลเป็นภาษาญี่ปุ่นทันทีเลย แค่นี้คุณก็สามารถขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องวลใจอีกแล้ว และหากมีสัญญาณเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่ลื่นไหลอย่างซิมโกอินเตอร์ของดีแทค ติดตัวไปด้วย รับรองปลอดภัย สื่อสารไม่มีสะดุด เจอกระเป๋ารวดเร็วแน่นอน และพร้อมให้คุณกลับไปชาร์จความสุขกับทริปในฝันกับเพื่อน ๆ และครอบครัวอย่างสนุกสุดเหวี่ยง สบายใจสุด ๆ แบบยาว ๆ กันไปเลย
เป็นยังไงกันบ้างสำหรับ 5 ทริครับมือกับสถานการณ์กระเป่าหายบนรถไฟที่ญี่ปุ่นที่นำมาฝากกัน หลายคนที่เคยเผชิญเหตุการณ์แบบนี้ คอนเฟิร์มว่าหากทำตามนี้ โอกาสเจอกระเป๋าหรือของที่หายสูงมากทีเดียว และสามารถนำไปใช้ในกรณีสิ่งของอย่างอื่นหายได้ด้วย ดังนั้น เมื่อเจอะเจอเหตุแบบนี้คราใดที่ญี่ปุ่นไม่ต้องหัวร้อนตกใจอีกต่อไป
โปรโมชันแนะนำ
10,700.-
ราคาปกติ 18,900.-ย้ายค่ายเหลือ 9,200.-
28,900.-
ราคาปกติ 32,900.-(เครื่องเปล่า 32,900 บาท)
บทความแนะนำ
