Mobile ID คืออะไร? กับ 5 ข้อดีที่ใช้แทนบัตรได้ปลอดภัยชัวร์!

เคยรู้สึกกันไหมว่า การติดต่อหน่วยงานราชการ ขอรับบริการจากภาครัฐและเอกชนบางแห่ง หรือการทำธุรกรรมทางการเงินบางอย่างต้องใช้เอกสารยืนยันตัวตนมากมาย ต้องถ่ายสำเนาบัตรประชาชนและดำเนินการในหลายขั้นตอน แต่ปัญหานี้จะค่อย ๆ หมดไป เพราะทาง กสทช. ได้ร่วมมือกับค่ายโทรศัพท์ โดยดีแทคเองก็เป็นหนึ่งในความร่วมมือที่นำร่องและผลักดันการนำ Mobile ID มาใช้ให้เกิดประโยชน์กับการยืนยันตัวตน เพื่อช่วยลดความวุ่นวายของงานเอกสาร การทำงานซ้ำซ้อน และเพิ่มความปลอดภัยไม่ให้ข้อมูลส่วนตัวรั่วไหล เราไปทำความรู้จักกับบริการที่แสนสะดวกนี้กันเลยว่า Mobile ID คืออะไร สะดวกอย่างไรและมีความปลอดภัยแค่ไหน

Mobile ID คืออะไร?

ปกติแล้ว เวลาเรายืนยันตัวตนกับหน่วยงานต่าง ๆ จำเป็นจะต้องมีข้อมูลและเอกสารที่ออกโดยหน่วยงานราชการ เช่น บัตรประชาชน หนังสือเดินทาง หรือในบางกรณีอาจใช้ใบขับขี่แทนได้ แต่หากทุกการทำธุรกรรมและการลงทะเบียนต่าง ๆ เราต้องคอยถ่ายสำเนาบัตรประชาชนและต้องกรอกข้อมูลใหม่ทุกครั้งอาจทำให้เราเสียเวลาหรือเสี่ยงกับการที่ข้อมูลรั่วไหลไปสู่บุคคลที่สามได้

บริการ National Mobile ID คือบริการที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้ประชาชนใช้เป็นดิจิทัลไอดีในรูปแบบของ QR Code สำหรับยืนยันตัวตนแทนบัตรประชาชนกับหน่วยงานที่รองรับได้เลย ซึ่งจะเป็นการใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลการลงทะเบียนซิมการ์ดของคนไทย ซึ่งมีอัตราการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่จำนวนมากอยู่แล้ว

เปิด 5 ข้อดีที่ dtac Mobile ID ช่วยให้ชีวิตคุณ “ง่ายขึ้น”

1. ประหยัดเวลา

จากที่เคยต้องกรอกเอกสารหลายขั้นตอน สามารถข้ามทุกอย่างแล้วใช้เพียง QR Code แทนบัตรประชาชนได้เลย เพราะ Mobile ID คือการเปลี่ยนข้อมูลส่วนตัวต่าง ๆ สำหรับยืนยันตัวตนให้อยู่ในรูปแบบข้อมูลดิจิทัลที่ดึงไปใช้งานได้รวดเร็ว

2. ประหยัดทรัพยากร

ไม่จำเป็นต้องใช้สำเนาบัตรประชาชน ซึ่งนอกจากจะเปลืองกระดาษ เปลืองค่าใช้จ่าย และเปลืองพลังงานแล้ว ยังสิ้นเปลืองพื้นที่จัดเก็บของหน่วยงานต่าง ๆ อีกด้วย ลองคิดดูว่า หากคนจำนวนมากต้องทำธุรกรรมหรือลงทะเบียนที่ต้องใช้เอกสารทุกครั้ง ในอนาคตเราอาจต้องเสียทรัพยากรต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น

3. เข้าถึงบริการต่าง ๆ จากภาครัฐและเอกชนง่ายขึ้น

ไม่ว่าจะเป็นการขอใช้บริการโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ การเปิดใช้ซิมการ์ด การยื่นภาษีออนไลน์ การซื้อขายหลักทรัพย์ หรือจะเป็นการตรวจสอบเครดิตบูโรด้วยตัวเอง ก็สามารถทำได้ง่าย โดยไม่ต้องไปทำเรื่องเองที่สำนักงาน ซึ่งในปัจจุบัน มีหลากหลายหน่วยงานที่กำลังเร่งผลักดันให้ Mobile ID ใช้งานได้จริง เพื่อลดภาระของฝั่งประชาชนและพนักงาน

4. ปลอดภัย

ไม่ต้องกังวลเรื่องโดนแอบอ้าง ปลอมแปลงเอกสาร หรือข้อมูลส่วนตัวรั่วไหลอีกต่อไป เพราะ Mobile ID คือการใช้ข้อมูลจาก QR Code และมีการเปรียบเทียบกับใบหน้าจริงเพื่อยืนยันตัวตนก่อนทำธุรกรรมทุกครั้ง ทั้งยังเก็บและเปิดเผยข้อมูลด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชนเพื่อความปลอดภัย

5. ขอใบขับขี่อิเล็กทรอนิกส์ได้

สามารถใช้ใบขับขี่อิเล็กทรอนิกส์บนแอปพลิเคชัน DLT QR Licence ควบคู่กับใบขับขี่แบบสมาร์ทการ์ดเพื่อเพิ่มความสะดวกในการวางแผนต่อใบขับขี่ แชร์เส้นทาง และขอความช่วยเหลือฉุกเฉินด้วย นอกจากนี้ ในอนาคต กรมการขนส่งทางบกก็จะพัฒนาระบบเพื่อให้ประชาชนสามารถใช้งาน Mobile ID กับงานขนส่งได้สะดวกยิ่งขึ้นกว่าเดิม

ปัจจุบันมีหน่วยงานราชการและเอกชนหลายแห่งที่รองรับ Mobile ID แล้ว เช่น กรมการปกครอง กรมการขนส่งทางบก สำนักงานประกันสังคม กรมสรรพากร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ ไปรษณีย์ไทย ตลอดจนธนาคารกรุงเทพและเครือซีพีออล์ และในอนาคต เชื่อว่า Mobile ID ที่ทันสมัยและสะดวกขนาดนี้จะกลายเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือดิจิทัลที่ช่วยอำนวยความสะดวกด้านข้อมูลให้กับคนไทยอย่างเต็มรูปแบบ ช่วยลดข้อจำกัดในด้านการติดต่อสื่อสาร การเดินทาง และการรับบริการต่าง ๆ ลง และเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับพวกเราได้มากทีเดียว

หากใครสนใจเปิดใช้บริการก็ง่ายนิดเดียว! เพียงติดต่อศูนย์บริการดีแทคใกล้บ้านโดยแสดงบัตรประจำตัวประชาชนและให้เจ้าหน้าที่ถ่ายรูปเพื่อทะเบียน จากนั้นรับ QR Code เพื่อใช้แทนการยืนยันตัวตน ซึ่งสามารถนำไปใช้กับหน่วยงานที่เข้าร่วมโครงการได้เลย