eSIM คืออะไร?

eSIM นวัตกรรมซิมการ์ด เพื่อลดข้อจำกัดของขนาด SIM Card ต่าง ๆ ให้เล็กลงเพื่อตอบโจทย์การนำไปใช้งานในอนาคตกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ง่าย และสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าอุปกรณ์ IOT (Internet of Thing) ที่กำลังจะมามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรา มีความจำเป็นต้องเชื่อมต่อกับ Internet ตลอดเวลานั้น ต้องพึ่งพาการเชื่อมต่อเครือข่ายอินเทอร์เน็ต

ซึ่งปัจจุบัน วิธีการเชื่อมต่อที่สะดวกและง่ายที่สุดคือการเชื่อมต่อด้วยเทคโนโลยี 3G/4G/5G การนำ eSIM มาใช้งานจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะใช้เนื้อที่น้อย และไม่ต้องเสียเวลาในการถอดประกอบ SIM Card เข้าอุปกรณ์ต่าง ๆ ทั้งยังช่วยให้อุปกรณ์ต่าง ๆ มีขนาดเล็กลงอีกด้วย

eSIM กับอุปกรณ์ที่รองรับในปัจจุบัน

SmartWatch

  • Apple watch
    • Apple Watch Series 3 รุ่น GPS + Cellular
    • Apple Watch Series 4 รุ่น GPS + Cellular
    • Apple Watch Series 5 รุ่น GPS + Cellular
    • Apple Watch Series 6 รุ่น GPS + Cellular
    • Apple Watch Series 7 รุ่น GPS + Cellular
    • Apple Watch Series 8 รุ่น GPS + Cellular
    • Apple Watch Ultra
    • Apple Watch Series SE, SE2 รุ่น GPS + Cellular
    • Apple Watch Series 9 รุ่น GPS + Cellular
    • Apple Watch Ultra 2
  • Samsung Galaxy Watch
    • Samsung Galaxy Watch eSIM 1.2"
    • Samsung Galaxy Watch eSIM 1.3"
    • Samsung Galaxy Watch Active2 (40mm,42mm)
    • Samsung Galaxy Watch 3 (42mm,46mm)
    • Samsung Galaxy Watch4 Classic LTE (42mm,46mm)
    • Samsung Galaxy Watch4 LTE (44mm)
    • Samsung Galaxy Watch5 LTE (40mm,44mm)
    • Samsung Galaxy Watch5 Pro LTE
  • TicWatch
    • Pro 4G/LTE

เป็นอุปกรณ์ตัวแรกที่นำ eSIM มาใช้งานจริงในประเทศไทย ทำให้การใช้งานอุปกรณ์ดังกล่าว ไม่ต้องพึ่งพา iPhone หรือสมาร์ทโฟนตลอดเวลานั่นเอง ถือเป็นการนำ eSIM มาใช้งานได้อย่างอิสระ ทั้งการโทร และการฟังเพลงแบบ Streaming จาก Apple Music (สำหรับ Apple Watch), Spotify (สำหรับ Samsung Galaxy Watch)

Smartphone / Tablet

  • iPad
    • iPad Pro 12.9-inch (5th Gen) WiFi + Cellular
    • iPad Pro 11-inch (1st Gen, 2nd Gen, 3rd Gen) WiFi + Cellular
    • iPad Pro 12.9-inch (3rd Gen, 4th Gen) WiFi + Cellular
    • iPad Air (3rd Gen, 4th Gen, 5th Gen) WiFi + Cellular
    • iPad (7th Gen, 8th Gen, 9th Gen) WiFi + Cellular
    • iPad mini (5th Gen, 6th Gen) WiFi + Cellular
    • iPad Pro (M4) WiFi + Cellular
    • iPad Air (M2) WiFi + Cellular
  • Huawei
    • P40
    • P40Pro
    • Mate 40 Pro
    • Mate XS
  • Honor
    • Magic4 Pro 5G
    • Magic5 Pro 5G
  • Motorola
    • Motorola Razr 5G
  • OPPO
    • Find X5 Pro
    • Find N2 Flip 5G
  • Xiaomi
    • Mi 12T Pro 5G
    • Mi 13 5G
    • Mi 13 Pro 5G
  • vivo
    • X90 Pro 5G
  • Samsung
    • Z Series
      • Samsung Galaxy Z Flip / Z Flip3 5G / Z Flip4 5G / Z Flip5 5G
      • Samsung Galaxy Z Fold / Z Fold2 5G / Z Fold3 5G / Z Fold4 5G / Z Fold5 5G
    • Tab Series
      • Samsung Galaxy Tab S9 5G / S9+ 5G / S9 Ultra 5G
    • S Series
      • Samsung Galaxy S20, S20+, S20 Ultra 5G
      • Samsung Galaxy S21 5G ,S21+ 5G, S21 Ultra 5G
      • Samsung Galaxy S22 5G ,S22+ 5G, S22 Ultra 5G
      • Samsung Galaxy S23 5G ,S23+ 5G, S23 Ultra 5G
    • Note Series
      • Samsung Galaxy Note 20 5G, Note 20 Ultra 5G, S20 Ultra 5G

อุปกรณ์ Smart Phone ที่นำ eSIM มาใช้เป็นตัวแรก ซึ่งความสามารถของ eSIM จะโดดเด่นกว่าการนำ Physical SIM ตรงที่ eSIM สามารถบรรจุ Profile eSIM ได้มากถึง 5 หมายเลขในเครือข่ายดีแทค จะตอบโจทย์สำหรับคนที่สะสมเบอร์สวย เบอร์มงคลไว้ได้ในเครื่องเดียว แต่สำหรับ iPhone ที่กล่าวมาจะนำหมายเลขต่าง ๆ มาใช้ได้ทีละหมายเลขเท่านั้นสำหรับ eSIM ซึ่งการพัฒนานี้ จะนำไปสู่การเพิ่มจำนวน SIM ลงในเครื่องได้อีกมากมายในอนาคต

eSIM dtac ดีอย่างไร

ประโยชน์ที่เด่นชัดของ eSIM สามารถสร้าง Profile ได้มากกว่า 1 eSIM ในเครื่องเดียว ตัวอย่างเช่น eSIM สำหรับ iPhone 11, 11 Pro, 11 Pro Max เป็นต้นไป สามารถเพิ่มได้สูงสุด 5 eSIM (Profile) แต่ iPhone ให้เลือกใช้ได้ครั้งละหมายเลขเท่านั้น ซึ่งเหมาะกับกลุ่มผู้ใช้งานที่มี Pack Plan ในการใช้งานที่หลากหลาย

เช่น หมายเลยสำหรับการโทร หมายเลข 1, หมายเลขสำหรับ เล่น Internet หมายเลย 2, หมายเลขสำหรับการเดินทาง หมายเลข 3 ซึ่งสามารถทำง่าย ๆ เพียงทำการสลับ Profile ไปใช้งานผ่านหน้าจอ iPhone

ขณะที่ SIM แบบปกติที่เสียบเข้าไปในเครื่องก็เป็นอีกหมายเลขหนึ่ง ทำให้ เครื่อง iPhone สามารถทำงานแบบ Dual SIM (SIM ปกติ + eSIM) ทำงานได้พร้อมกันสองเลขหมาย ต่างจากรุ่นที่ไม่มี eSIM ที่จะทำงานได้แค่ ครั้งละหนึ่ง SIM เท่านั้น (เลขหมายเดียว)

การขอรับบริการ eSIM

  • eSIM Number Paring ใช้เบอร์ร่วมกับเบอร์หลัก
  • Apple watch
  • Samsung Galaxy Watch

ลูกค้าสามารถเพิ่มเบอร์ Number Paring (eSIM) ได้ผ่านหน้าจอ iPhone เครื่องหลัก หรือ Samsung เครื่องหลักได้ด้วยตนเอง ในขั้นตอนการจับคู่ Watch กับ Smartphone เครื่องหลัก จะมีเงื่อนไขในการดำเนินการตามขั้นตอน

ขั้นตอนการรับบริการ พร้อม FAQ สำหรับ Apple Watch

  • eSIM สำหรับเบอร์ใหม่หรือเบอร์เดิมเปลี่ยนเป็น eSIM
  • iPhone
  • Smartphone
  • TicWatch

เพียงลูกค้านำเครื่อง Samsung Galaxy Fold, iPhone 11, 11 Pro, 11 ProMax, XR, iPhone XS, iPhone XS Max หรือรุ่นใหม่ ไปที่ สำนักงานบริการดีแทค (dtac Hall) ทั่วประเทศ และแจ้งความจำนงขอทำ eSIM ทางเจ้าหน้าที่จะทำการเพิ่ม eSIM ให้ท่านในเครื่อง พร้อมเปิดให้บริการ ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น
*TicWatch 4G/LTE เป็นการใช้บริการ eSIM แบบแยกหมายเลขโทรศัพท์ เช่นเดียวกันกับ Smartphone

FAQ eSIM สำหรับ iPhone

บริการใหม่ การโอนย้ายซิมจาก
iPhone เครื่องก่อน
ไปยัง eSIM บน
iPhone เครื่องใหม่ของคุณ ด้วยตัวเอง

บริการโอนเบอร์จากเครื่องเก่าด้วยตัวเอง เพิ่มความสะดวกให้มากขึ้น สำหรับผู้ที่ทำการเปลี่ยนเครื่องใหม่
ได้ด้วยปลายนิ้วของท่านเอง

  1. โอนย้ายซิมจริงจากเครื่องเก่า ไปยัง eSIM เครื่องใหม่
  2. โอนย้าย eSIM จากเครื่องเก่า ไปยัง eSIM เครื่องใหม่
ขั้นตอนการโอนย้ายซิมจาก iPhone เครื่องก่อน
ไปยัง eSIM บน iPhone

ขั้นตอนการเปลี่ยนซิมปกติเป็น eSIM บน iPhone ของตนเอง
ขั้นตอนการโอนย้ายซิมจาก iPad เครื่องก่อนไปยัง eSIM บน iPad